มิซาโตะจูบชินจิในตอนจบของ The End of evangelion ทำไม ?

เมื่อวันก่อนได้ไปตอบกระทู้ของ Dex เกี่ยวกับเรื่องนี้จุดประเด็นให้คิดอีกว่าทำไมกัน ใน Rebuild of Evangelion ผู้เขียนได้ให้นิยามที่เหมาะสมสำหรับมิซาโตะก็คือ “เกนโด ในเวอร์ชันผู้หญิง”

มิซาโตะ นั้นสูญเสีย คาจิ ไปตั้งแต่ตอนที่ 21 ร้องให้อยู่นานโดยที่ไม่มีใครมาช่วยปลอบใจใดๆ แต่พักเดียวเท่านั้น มิซาโตะ ก็กลับมามุ่งมั่นค้นหาข้อมูลที่ คาจิ มอบให้ แล้วกลับมามุ่งมั่นทำงาน มิซาโตะ ไม่เสียใจอย่างนั้นหรือ?

หรือเธอเปลี่ยนความเสียใจเป็นกำลังใจที่อยากจะแก้แค้นไปแล้ว

ที่น่าสนใจคือ ในตอนที่ 21 ที่ มิซาโตะ รับรู้ว่า คาจิ ได้ตายไปแล้ว เป็นตอนเดียวกันกับที่เล่าเรื่องของเกนโด ที่เสนอแผนพัฒนามนุษยชาติ หลังจากสูญเสีย ยูอิ ไป เกนโดก็เสียใจเหมือนกันแต่ก็ไม่นานนัก เขากลับมาตั้งใจทำงานเหมือนกันกับมิซาโตะ และทิ้งลูกให้คนอื่นเลี้ยง เหมือนกับที่ มิซาโตะ ยก เพนเพน ให้ไปอยู่กับ โฮรากิ ฮิคาริ

พวกเขาทอดทิ้งสิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นภาระ ไม่สามารถดูแลต่อไปได้อีก

อีกทั้งเมื่อพวกเขาทั้งคู่ถึงเวลาตาย ก็ยังเห็นคน 3 คน เหมือนกันอีก

นั่นคือ เกนโด เห็น คาโอรุ , เร และ ยูอิ

ส่วนมิซาโตะ เห็น อาสึกะ , เพนเพน และ คาจิ

นั่นหมายถึงบุคคล 3 คน เป็น ภาพสะท้อนของตนเอง / ผู้อยู่ใต้การปกครอง / คนรัก

วาระสุดท้ายของเกนโดและมิซาโตะใน The end of Evangelion

เมื่อ มิซาโตะ รับดูแลชินจิในตอนที่ 2 มิซาโตะพยายามทำตัวเหมือนกับพี่สาวคอยดูแลชินจิ แต่เธอไม่ได้เข้าใจอะไรชินจิเลยในทีแรก มิซาโตะ สั่งให้ชินจิสู้ชินจิทำตามคำสั่ง มิซาโตะก็ไม่พอใจที่ชินจิไม่หยุดยิงจนควันท่วมตัวแซมเซล ชินจิก็โดนเหวี่ยงไปพิงภูเขา เจอกับ พวกโทจิ และ เคนสึเกะ มิซาโตะก็สั่งให้รับพวกเขาขึ้นมาบนเอวา ชินจิที่ถูกโทจิต่อยที่โรงเรียนเพราะเป้นสาเหตุที่ทำให้น้องสาวของเขาบาดเจ็บ เขาเคยพูดขึ้นว่าคนขับหุ่นนั่นโคตรห่วยเลยทำตึกพังน้องสาวของเขาจึงต้องบาดเจ็บ ชินจิ ได้เรียนรู้แล้วว่าถึงเขาจะทำตามคำสั่งแต่ถ้าคำสั่งนั้นทำให้คนอื่นต้องบาดเจ็บ เขาก็ต้องเป็นคนแบกรับความโกรธแค้นนั้นไว้เอง คนสั่งลอยตัวไม่ต้องรองรับอารมภ์โดยตรง “เราจะหนีไม่ได้” ชินจิพูดขึ้นมาเพราะรู้ผลลัพท์จากการที่ต้องหนี เขาจึงขัดคำสั่ง แม้ว่าสุดท้ายจะชนะแต่ก็ยังต้องมารองรับอารมภ์ความไม่พอใจของมิซาโตะอยู่

มิซาโตะ ไม่ได้เป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจให้กับชินจิ เขาจึงเลือกออกไปเร่ร่อนข้างถนนแทน แต่เมื่อเขาได้เลือกที่จะไม่ขับเอวาอีกต่อไปแล้วเขาก็ต้องกลับไปอยู่กับอาจารย์ หากแต่ว่า ใน ฉบับมังกะได้บอกไว้ว่าชินจิไม่อยากจะกลับไปเลย (ในมังกะเขาอาศัยอยู่กับลุง) ดังนั้นเหตุผลเบื้องหลังที่ชินจิยอมขับเอวาต่อคือการที่เขาไม่อยากกลับไป เพราะขณะนี้เขามี โทจิ เป็นเพื่อนที่เข้าใจเขาแล้ว

มิซาโตะ ก็ดูแลชินจิเรื่อยมาจนกระทั่งอาสึกะได้เข้ามาอยู่ชายคาเดียวกัน อาสึกะนั้นเป็นตัวตนที่เหมือนกับมิซาโตะ แล้วยังคงชอบ เรียวจิ คาจิ เหมือนกันอีกด้วย ความสัมพันธ์ของ มิซาโตะ และ อาสึกะ จึงเป็นเหมือนกระจกสะท้อนที่ต่างก็ไม่ได้ชอบหน้ากันเท่าไรนัก อาสึกะก็เสียใจไม่น้อยไปกว่ามิซาโตะ เธอเลือกที่จะกรีดข้อมือฆ่าตัวตายแทนเพราะรับรู้ว่าตนเองมิได้เป็นที่ต้องการของใครเลย จึงเลือกอยากจะละทิ้งโลกไป

ส่วนมิซาโตะกลับทำตรงกันข้าม มิซาโตะเลือกที่จะนำสิ่งที่เรียวจิคาจิทิ้งให้ไว้มาใช้ทำการแก้แค้นโลก มิซาโตะไม่ได้มองมนุษย์อย่างมนุษย์ เธอมองมนุษย์อย่างเครื่องจักรชิ้นหนึ่ง ต้องทำไปตามเหตุผล มิซาโตะ ขาดความเชื่อมั่นในตัวมนุษย์ ในฉากที่เธอสั่งให้ ฮิวงะ ระเบิด terminal dogma เพื่อยับยั้งการสัมผัสกันของเทวฑูต นั้นมิซาโตะสั่งการไปโดยไม่รู้สึกอาลัยอาวรณ์ชีวิต ความคิดในด้านเป็นเหตุเป็นผลครอบงำความเป็นมนุษย์ไปแล้ว

ดังคำพูดที่มิซาโตะให้คำปรึกษากับชินจินั้นปราศจากความเห็นอกเห็นใจในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่อธิบายออกมาอย่างสมเหตุสมผล

ชินจิ : คาโอรุเขาบอกว่าเขารักผม มันเป็นครั้งแรกในชีวิตผมที่มีคนบอกว่าชอบผม เขาเองก็เหมือนกันกับผม เหมือน อายานามิ  ผมเองก็ชอบเขา เขาควรเป็นคนที่รอดชีวิต

มิซาโตะ : เธอพูดผิดแล้วหละผู้ที่ควรรอดชีวิตคือคนที่อยากมีชีวิตรอด แต่เขาต้องการที่จะตายเอง เขาทอดทิ้งเหตุผลที่จะมีชีวิต เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลยชินจิ

ชินจิ : คุณมิซาโตะใจร้ายจัง

ด้วยถ้อยคำที่พูดคุยกันมันบอกได้ว่าชินจิกำลังคิดลบกับชีวิตของตัวเขาเอง ตั้งแต่เขาคิดว่าเขาควรจะตายไปในตอนนั้นไม่ใช่คาโอรุ และ มิซาโตะ ก็ล้มเหลวในการเป็นที่พักพิงทางจิตใจให้กับชินจิ

มิซาโตะเองใน Rebuild ในภาค 3.0+1.0 ได้บอกไว้ว่ามิซาโตะมีลูกกับคาจิและเธอก็สูญเสียคนรักไปเช่นเดียวกันกับเกนโด และเธอก็เลือกที่จะทำในสิ่งเดียวกันกับที่เกนโดทำหลังจากที่เขาสูญเสีย ยูอิ นั่นคือการละทิ้งครอบครัวไป อย่างมีเหตุมีผลแต่ไร้ซึ่งหัวใจของมนุษย์ “ปกป้องลูกด้วยการปกป้องโลก” ละทิ้งครอบครัวไปอย่างนั้นหรือ สำหรับกรณีของ เรียวจิ คาจิ อาจจะโชคดีที่มี เคนสึเกะ (รับบทบาททดแทน เรียวจิ คาจิ) ที่มีความเข้าใจและทัศนคติที่ดีสำหรับการเป็นผู้ปกครองคอยดูแลอยู่ หรือไม่ก็เพราะ เรียวจิ คาจิ มีสกรีนไทม์น้อยจนไม่สามารถจะเล่าเรื่องราวความทุกข์ของเขาได้

 แต่ทั้งใน the end of Evangelion และ 3.0+1.0 Thrice upon a time มีตอนจบสุดท้ายของทั้งเกนโดและมิซาโตะ เหมือนกัน นั่นคือ พ่อ/แม่ขอโทษนะ ชินจิ/เรียวจิ และจบลงด้วยฉากของทั้ง 2 ที่เลือกรับโทษฑันต์ของตนเอง เกนโดเขาเห็นตนเองโดนเอวา 01 กิน มิซาโตะตายไปพร้อมกันกับยาน AAA wunder เพื่อส่งหอกไกอัสให้กับชินจิ

การจูบและกอดของพวกเขาเป็นการมองผู้อื่นอย่างมนุษย์และกลับมาเป้นมนุษย์ที่มีหัวใจที่อบอุ่นอีกครั้ง

เมื่อเกนโดและมิซาโตะคือภาพสะท้อนของพ่อและแม่แล้ว ใน 3.0+1.0 เกนโดได้ทำความเข้าใจกับชินจิ เขาพูดขึ้นว่าเขาเห็นยูอิแล้วในตัวของชินจิ เห็นแล้วว่าชินจิเติบโตขึ้น เกนโดยอมรับในความเป็นมนุษย์อีกครั้ง เขามองลูกของเขาเป็นลูกจริงๆ ไม่ใช่เพียงเครื่องมือมนุษย์อย่างที่ปฏิบัติมาตลอดทั้งเรื่อง

ดังนั้นสำหรับมิซาโตะที่จูบชินจินั้นก็ไม่ต่างกันกับที่เกนโดได้กลับมามองมนุษย์อย่างมนุษย์ไม่ใช่เครื่องมืออีกต่อไป เธอได้กลับมามีความสัมพันธ์กับมนุษย์ผู้อื่นอย่างมนุษย์กับมนุษย์อีกครั้ง ไม่ได้มองมนุษย์เป็นเครื่องจักรอีกต่อไป เธอจึงจูบชินจิในฐานะความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ครั้งสุดท้าย

วาระสุดท้ายทำอะไรไม่ได้นอกจาก "พ่อขอโทษนะชินจิ" "แม่ขอโทษนะเรียวจิ"

Note เห็นได้ว่าข้อความสื่อสารหลักของ ของ Evangelion ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแต่อย่างใดแต่ได้ใช้การเล่าเรื่องเดิมเปลี่ยนมุมมองตัวละครเท่านั้น